หน้าจอ Resistive กับ Capacitive คืออะไร ? |
|
|
ในความเป็นจริงแล้วหน้าจอทัชสกรีนนั้นมันมีหลากหลายรูปแบบมากครับ
แต่ที่นิยมใช้ในเครื่อง PDA Phone ยุคนี้ก็จะมีอยู่สองแบบคือ แบบ Resistive กับ
Capacitive
และด้วยเรื่องรูปแบบของระบบสัมผัสหน้าจอนี้แหละมันเลยกลายเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเครื่องยุคปี
2009 เพราะเนื่องจากระบบ Touch interface
มันเกิดได้รับความนิยมสูงสุดแบบไม่เคยมีมาก่อนมันเลยงานเข้าเลยหละทีนี้
ทำให้คนให้ความสำคัญการทำงานด้วยนิ้วเป็นหลัก แต่เครื่อง PDA Phone
ในตลาดส่วนมากจะเป็นหน้าจอแบบ Resistive
เลยทำให้การสัมผัสสั่งงานด้วยนิ้วมันทำงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไร
คือพูดกันตรงๆเลยละกันว่า มันตอบสนองสู้ iPhone ไม่ได้ ก็เพราะว่าหน้าจอ iPhone
มันเป็นหน้าจอระบบสัมผัสแบบ Capacitive นั่นเอง
ซึ่งตอบสนองการสั่งงานด้วยนิ้วได้ดีกว่า แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถใช้ Stylus
หรือวัสดุอื่นๆจิ้มได้เอาหละครับ เรามาดูความแตกต่างกันดีกว่าระหว่างหน้าจอ
Resistive กับ Capacitive
1. หน้าจอแบบ Resistive
เทคโนโลยี Resistive ถือว่าเป็นแบบที่ประหยัดและเหมาะกับการใช้งานประเภท
ต่างๆได้กว้างขวาง เช่ีน ร้านอาหาร ร้านค้าที่ใช้เครื่อง POS งานควบคุมทางด้านอุต
สาหกรรม รวมทั้งใช้ในอุปกรณ์พกพาอย่าง PDA, Mobile เป็นต้น Touch Screen แบบ
Resistive จะประกอบด้วย เลเยอร์ด้านบนที่ยืดหยุ่นและเลเยอร์ด้านล่างที่อยู่
บนพื้นแข็งคั่นระหว่าง 2 เลเยอร์ด้วยเม็ดฉนวนซึ่งทำหน้าที่แยกไม่ให้ด้านในของ 2
เลเยอร์สัมผัสกันเพราะด้านในของ 2 เลเยอร์นี้จะเคลือบด้วยสารตัวนำไฟฟ้าที่มีคุณ
สมบัติโปร่งแสงในเวลาจะมีการปล่อยกระแสที่เลเยอร์สารตัวนำ และเมื่อคุณกดที่ Touch
Screen จะทำให้วงจร 2 เลเยอร์ต่อถึงกัน จากนั้นวงจรควบคุมก็จะคำนวณ ค่ากระแสไฟฟ้า
ซึ่งจะแตกต่างไปตามตำแหน่งที่สัมผัส เมื่อคำนาณค่ากระแสตาม
แนวตั้งและแนวนอนก็จะจำได้ตำแหน่งที่สัมผัสบนหน้าจอ
จุดแข็งของ Resistive
- ราคาไม่แพง
- สามารถใช้อะไรสัมผัสก็ได้
- หาตำแหน่งที่สัมผัสได้ละเอียด
- กินไฟน้อย
2. หน้าจอแบบ Capacitive
เทคโนโลยี Capacitive มีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งความทนทานความ
โปร่งแสงมักเป็นที่นิยมใน Application ประเภท เกมส์ Entertrainment ATM, Kiosk
อุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม และ POS โครงสร้างของ Touch Screen แบบ Capacitive
นั้นประกอบด้วยแผ่นแก้วเึคลือบผิวด้วยอ็็อก ไซด์ของโลหะแบบโปร่งแสง
เมื่อถึงเวลาการใช้งานก็จะมีการป้อนแรง ดันไฟฟ้าที่มุมทั่วสี่ของ Touch Screen
เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
ความเข้มสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งแผ่น
ผู้ใช้จะต้องใช้นิ้วมือเปล่าๆสัมผัสที่จอเพื่อดึงกระแสจากแต่ละมุมที่ให้แรงดันตกลง
จากนั้นแผงวงจรควบคุมก็จะคำนวณเป็นตำเหน่งที่สัมผัสได้
จุดแข็งของ Capacitive
- มีความคมชัด
- แสงจากหน้าจอสามารถผ่านออกมาได้ ภาพจึงชัด
- หาตำแหน่งที่สัมผัสได้ละเอียด สามารถสัมผัสด้วยนิ้ว
สรุปง่ายๆ
หน้าจอแบบ Resistive
- ราคาไม่แพง
- ใช้อะไรสัมผัสก็ได้
- ต้องใช้เล็บจิ้มหรือปากกาเพื่อความแม่นยำ
- หน้าจอนิ่ม กดแล้วจะสามารถบุ๋มได้
หน้าจอแบบ Capacitive
- ราคาแพงกว่า
- ต้องใช้นิ้วมือในการสัมผัสเพราะต้องการกระแสไฟฟ้าสถิต
- หน้าจอคมชัดกว่า และตอบสนองการสั่งงานได้ดีกว่า
- ทนทานมากกว่า
- ถ้าต้องการใช้ปากกาจิ้ม ต้องซื้อปากกาเฉาะสำหรับ Capacitive
Views: 10683
Only registered users can write comments. Please login or register. Powered by AkoComment Tweaked Special Edition v.1.4.6 AkoComment © Copyright 2004 by Arthur Konze - www.mamboportal.com All right reserved |