
ในทศวรรษ 1970 เมื่อวงจรเบ็ดเสร็จเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นปัญหาก็เกิดตามมาวงจรที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนี้ราคาการออกแบบย่อมสูง ขึ้นด้วยแต่ใช้กับงานเฉพาะอย่างตลาดจึงแคบลงสิ่งที่ต้องการก็คือวงจรเดี่ยวที่สามารถทำงานต่างๆ ได้หลายรูปแบบคำตอบคือไมโคร โพรเซสเซอร์เพราะมันเป็นวงจรที่อ่านและทำงานตามรหัสคำสั่งผู้ใช้สามารถใช้ชิปตัวเดียวทำงานได้หลายอย่างโดยการเก็บรายการ คำสั่งก็คือโปรแกรมมาไว้ในหน่วยความจำอิเล็กทรอนิกส์ ไมโครโพรเซสเซอร์เป็น "สมอง" ของเครื่องคอมพิวเตอร์ในรูปของชิปเดี่ยว มันใช้ตรรกะในการถอดรหัสคำสั่งและจัดการกับข้อมูลได้ตามสั่งผลลัพธ์จะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำหรือส่งไปยังสิ่งดิษฐ์อื่นเช่นจอ ภาพหรือเครื่องพิมพ์แม้จะเปลี่ยนแบบพลิกโฉมมาแล้วก็ตาม ตอนที่เปิดตัวเมื่อปีค.ศ. 1971 นั้นไมโครโพรเซสเซอร์เครื่องแรกยังทำ งานช้าการเข้าถึงหน่วยความจำยังจำกัดรวมทั้งจัดการควบคุม"คำ(words)"ที่เกิดขึ้นจากเลขโดดฐาน 2 ได้ 4 ตัวเท่านั้นการประมวล ผล(processor)สมัยใหม่สามารถจัดการกับคำที่มี 32 บิตและเข้าถึงหน่วยความจำได้ในขนาดเป็นเมกะไบต์และทำคำสั่งเสร็จสมบูรณ์
ภายในเวลาประมาณหนึ่งในสิบล้านของวินาที"การประมวลผลแบบสัญญาณเชิงตัวเลข"ก็ยิ่งทำงานเร็วกว่านี้จึงใช้สำหรับงานพิเศษ เฉพาะเช่นการส่งภาพไปทางสายโทรศัพท์
ผู้เขียน : รศ. ยุทธ อัครมาส
เรียบเรียงจาก : หนังสืออิเลกทรอนิกส์ หน้าที่ 58
|